วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

2 ชม. กับการเติมพลัง ณ.ใจกลาง กทม.

                       

                       ก่อนอื่น ต้องของบอกว่าเป็นนความบังเอิญที่ค่่อนข้างโชคดี วันนั้นผมมีอบรมสัมนาที่แถวๆเอกมัยเลยไปจอดรถที่ห้องเพื่อนแถวๆ BTS หมอชิด มีอบรมตอนบ่ายโมง แต่ผมดันคึก ตื่นเช้าเกินไปถึงตั้งแต่แปดโมงครึ่ง มีเวลาเหลือเยอะไปหน่อย เลยไปที่..........????




          สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ นั่นแหละครับ
ผมเคยมาที่นี่แล้วครั้วหนึ่ง แต่นานมากๆ แล้วก็มาวันหยุดซึ่งคนเยอะมาก แต่ครั้งนี้ผมมาวันปกติ ซึ่งคนอื่นๆเขาทำงานกัน ตอนนี้เสียค่าเข้า 20 บาทครับ จากเมื่อก่อน 10 บาท


          เดินเข้ามาก็จะเจอถนน มีต้นไม้ขนาบ2 ข้าง อากาศร่มรื่นต่างจากด้นนอกมาก แล้วผมก็เดินไปเรื่อย ถ่ายรูปไปเรื่อย วันที่ผมไปอากาศค่อนข้างดี แดดไม่แรงมาก แล้วก็เจอเลยครับ มุมสงบ น่านั่งมากๆ เป็นมุมที่อยู่ติดกับบ่อน้ำ ซึ่งผมชอบมุมนี้เป็นการส่วนตัว




              บรรายกาศตามทางเดินก็จะเป็นต้นไม้ แล้วก้อมีรูปปั้นเด็กน่ารักๆอยู่ตลอดทาง



         
                ด้านหลังจะมีสนามเด็กเล่นและก็สนามบาสครับ  ถึงแม้จะอยู่ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ห้าแยกลาดพร้าวที่รถติดตลอดการ แต่กลับให้ควาทรู้สึกร่มรื่นมาก ไหม่เหมือนอยู่ในเมืองเลย

        เดินต่อมาสักพักเราก็จะเจอทางแยก ถึงเวลาต้องเลือกแล้ว แต่ผมเชื่อที่ว่า ขวาร้าย-ซ้ายดี ก็จัดไปครับป้ายบอกว่า อุทยานผีเสื้อ


   OMG!!!!!! ผมเลือกไม่ผิดเลยครับเดินมาก็เจอน้ำตกเลย......


   ล้อเล่นนะครับ พอดีวันที่ผมไปฝนพึ่งตก น้ำท่วม กทม เลยต้องมีการระบายน้ำกันซะหน่อย แต่ก็เป็นอีกมุมนึงที่น่านั่งใช้ได้เลย
    เดินต่อมาสักพักเหงื่อเริ่มซึมๆ เหมือนจะเดินมาไกลพอสมควร ก็จะเจอสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์อยู่ทางด้านซ้ายมือ แต่ดูนาฬิกาเวลาของผมไกล้หมดแล้ว เดี๋ยวจะขึ้นรถไฟฟ้าไปอบรมไม่ทันเลยได้แค่แอบมองจากทางเข้าแล้วกัน



     แต่เรายังไม่เจอเป้าหมายที่เราตามหา เดินๆๆๆ แล้วก็เดิน แต่ก็ยังเจอแค่ป้าย

  
    ก็เดินกันต่อสิครับ เวลาก็ใกล้หมด เหนื่อยก็เหนื่อย ทางออกอยู่ตรงไหน อยากกลับแล้ว แต่แล้วเราก็เจอจนได้ครับ แต่ก็อย่างที่บอก เวลาหมดแล้ว ก็ได้แค่เดินผ่าน ถ้ามีเวลาผมจะเข้าไปดูให้ได้เลย
  
  นอกจากนี้ในสวนรถไฟนี้ยังมีศูนย์กีฬาและลานกิจกรรมให้ได้ใช้กันอีกด้วย

  
 และสุดท้ายผมก็เดินมาถึงทางออก ช้ากว่าที่คิดไว้นิดนึงแต่ไม่เป็นไร พอให้อภัยได้ มีเหงื่อซึมๆพอสมควร ก่อนจะกลับผมคิดว่าสถานที่แห่งนี้เหมาะกับการหลีกหนีสังคมอันวุ่นวาย มาพักผ่อนสมอง ปล่อยวางเรื่องต่างๆ ชาร์ตพลังให้ร่างกายและจิตใจ แถมยังอู่จกลางเมืองเรานี่เอง
      ไหนๆเราก็มากันถึงสวนรถไฟแล้ว จะไม่มีรูปรถไฟก็คงจะแปลกๆใช่ไหมครับ
                                                               สวัสดีคร๊าบบบบบ......


 "การอยู่คนเดียวหรือเที่ยวคนเดียวไม่ได้แย่เสมอไป

เพราะมันอาจจะทำให้เราคิดถึงตัวเองและรักตัวเองมากขึ้น "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น