หัวหิน ผมเชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายๆคน เนื่องจากเป็นเมืองที่มี เอกลักษณ์ ใกล้กรุงเทพฯ ที่เที่ยวเยอะ ทะเลสวย และที่ผมชอบที่สุดคือ ของกินอร่อยๆเยอะมาก
ทริปนี้เราไปกันวันอาทิตย์
จันทร์ และ อังคาร ซึ่งเป็นวันที่คนอื่นทำงานกัน
แต่เพราะแบบนี้แหละครับผมถึงชอบเที่ยววันธรรมดา
ถ้าใครติดตามบล็อคผมมาตลอดจะเห็นว่าผมชอบตื่นสาย แต่วันนี้ไม่มีสายครับ
เราออกเดินทางตั้งแต่ 06:00น ออกจากย่านนทบุรี เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์
รถไม่เยอะมาก ผมวิ่งถนนงามวงษ์วาน ออกวิภาวดี ต่อพระราม9 ออก
Motor way ตัดเข้า วงแหวนกาญจนาเษก แล้วต่อที่ทางด่วนบางนา-พระราม2
ถามว่าทำไมผมต้องวิ่งทางนี้ ง่ายๆเลยครับ ประหยัดค่าทางด่วน เสียแค่40 บาท ตรง
บางนา-พระราม2 แล้วก็วิ่งยาวไปหัวหินกันเลยยยยยยยย
ระหว่างทาง เราก็ผ่าน จ.เพชรบุรี
ไหนๆก็ผ่านแล้ว แถมเวลาเหลือเยอะเลยขอแวะซะหน่อยแล้วกัน
หลายๆคนพอนึกถึงเมืองเพชร ก็จะนึกถึง ข้าวแกง หรือ ขนมหม้อแกง แต่เราไม่ครับ
คนกินเยอะแล้ว สิ่งที่ผมนึกถึงคือ " ข้าวแช่ "
ข้าวแช่คืออะไร ตามชื่อเลยครับ ข้าวแช่อยู่ในน้ำ แต่เป็นน้ำเย็น
แถมใส่น้ำแข็งอีกต่างหาก
กินกับเครื่องเคียงอีก3อย่างซึ่งผมก็ไม่รุว่ามันคืออะไร ร้านที่ผมแวะเป็นร้าน ข้าวแช่แม่นิดสะพานดำ
เป็นร้านเพิงอยู่ข้างทาง ติดแม่น้ำ คนขายเป็นลุงไว้หนวด ท่าทางนักเลง
ออกน่ากลัวนิดๆ แต่พอคุยด้วย แกเป็นคนน่ารัก ออกจะกวนๆใช้ได้ ชิมกันเลย
กินแรกๆอยากบอกว่าแปลกๆ แต่กินไปสักพักเฮ้ยยย!!!อร่อยดีอ่ะ เครื่องเคียงทั้ง3อย่างจะออกหวานๆ
กินแล้วชื่นใจ แก้ร้อนอย่างดีเลย แถมวิวร้านดีอีกต่างหาก
มาเดินทางกันต่อเลย ถึงหัวหินแล้ววววว แต่เรามาถึงเร็วกว่าที่คิด เดินเข้าไป Check-In ได้กระดาษมาหนึ่งใบ
ได้บัตรคิวมาแต่ต้องรอทำความสะอาดห้องก่อนเนื่องจากมี กรุ๊ปทัว พึ่ง
Check -out เราเลยไปหาอะไรกินรอเวลา มาทะเลทั้งทีแต่เพื่อนผมดันอยากกินส้มตำ
( มันใช่ไหมเนี่ย) เอ้า !!! ตามใจ งั้นก็ต้องที่นี่เลย “ ส้มตำถนนตก “ ผมก็ไม่เคยกินเหมือนกัน ลองดูก็ได้
พอมาถึง เอ่ออออ คนเยอะมาก ดันมาตอนเที่ยง แถมอากาศร้อนได้ใจเลย สั่งมากินอยู่
3
อย่าง มี ส้มตำทะเล คอหมูอย่าง และน้ำตกหมู ขอบอกครับว่าไม่ผิดหวังอร่อยมากครับ
แต่ติดว่าร้อนไปหน่อย ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านขายแผ่นเพลง เปิดเพลงเพราะๆให้ฟังอยู่ตลอด
บรรยากาศมันได้จริงๆ ถ้าตัดความร้อนของดวงอาทิตย์ออกนะ 555
ถึงเวลา Check- in กันแล้ว ทริปนี้เราได้Promotion พัก1คืน แถม 1 คืน
ซึ่งคุ้มมากๆ เนื่องจาก rate ห้องที่นี่ค่อนข้างแพง มาถึงService ที่นี่ดีมากๆครับ
ประทับใจเลย บรรยากาศที่ Lobby ตกแต่งน่ารัก
แอบแฝงความเป็นไทยผสมอยู่แต่ไม่ดูโบราณครับ ลงตัวดี เสร็จแล้ว เราจะได้ Key
Card มา2ในครับ ซึ่งKey Card ที่นี่ไม่ได้ใช้แค่เปิดห้องนะครับ แต่ต้องใช้แตะลิฟต์เพื่อไปยังชั้นที่เราพักอีกด้วย
ถือว่าเป็น Security
ที่ดีเลยครับ
ห้องที่เราพักอยู่ ชั้น7 เป็นห้องแบบDeluxe Twin แต่เราโชคร้ายไปสักนิด ได้ห้องที่อยู่ฝั่งเห็นวิวถนนด้านหน้า
ถ้าเป็นอีกฝั่งจะเห็นเป็น Pool View และจะเห็นทะเลด้วย แต่ไม่เป็นไรครับ มองข้ามมันไป
ห้องพักออกแนวvintage เน้นโทนสีชาว ซึ่งไม่ค่อยเข้ากับหน้าผมเท่าไหร่
ห้องตกแต่งเรียบๆ แต่ดูดีมีสไตล์ เฟอนิเจอร์ส่วนมากจะเน้นแบบกะทัดรัด
เหมาะกับห้องที่ไม่กว้างมาก
เนื่องจากตัวห้องค่อนข้างแคบ
แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัดเนื่องจากการตกแต่งที่เหมาะพอดี และที่สำคัญ
มีระเบียงไว้นั่งชิวอีกต่างหาก
ห้องน้ำตกแต่งสไตล์เดียวกับตัวห้อง
แยกระหว่างโซนเปียกและแห้ง แต่ที่จะบอกคือ “ ห้องน้ำล็อคไม่ได้
“ นะจ๊ะ
จนมาถึงตอนนี้ก็เย็นแล้ว ออกไปหาอะไรกินกันดีกว่า
ขับรถเลยที่พักมาทางเขาตะเกียบ
เพื่อหาของกิน เราก็มาเจอร้านนี้ครับ ร้าน ครัวบ้านครูซีฟู๊ดที่เลือกร้านนี้ไม่มีเหตุผลครับ
เพราะบรรยากาศล้วนๆ ร้านออกแนวโล่งๆ คนไม่เยอะมาก และที่สำคัญ ติดทะเล
ประมาณว่าเดินลงหาดได้เลย
หลังจากสั่งอาหาร ผมก็ต้องไปเดินรับลมทะเลซะหน่อย
แต่สงสัยเดินเพลินไปหน่อย กลับมาอีกทีอาหารหายไปเกือบครึ่งจาน เพื่อนผมนี่รักผมจริงๆ เลยไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมาให้ชมครับ รสชาติใช้ได้
ถือว่าอร่อยเลย จานใหญ่ บรรยากาศดี แต่บริการออกบ้านๆไปนิด และราคาแอบแรง
แต่พอรับได้ครับ
หลังจากนี้ไม่มีไรมาก กลับห้องนอนเลยครับเหนื่อยๆ ถึงห้องเจอแอร์เย็นๆก็เรียบร้อยสิครับ หลับตามระเบียบ
เช้าวันต่อมา ผมก็ใช้ความพยายามอย่างสูงเพื่อตื่น05:30
เพื่อที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเล แต่ข้อเสียนิดนึงของที่นี่คือ
ไม่ติดทะเลถ้าอยากไปทะเลจะมีรถกอล์ฟรับส่งเป็นเวลาครับ ระยะทางประมาณ 600 เมตร
ระดับผมแค่600เมตร ไม่มีรอรถครับ เดินโลด เป็นการออกกำลังกาย
แต่พอเดินไปได้ครึ่งทางก็รู้ซึ้งว่ามันไกล แดดเริ่มออก เริ่มคิดถึงรถกอล์ฟขึ้นมา แต่ก็กัดฟันอีกนิด จนเดินมาถึง
แต่ไม่ทันครับ พระอาทิตย์ขึ้นไปแล้ว แดดเริ่มแรง นั่งอยู่สักพักก็กลับครับ
แต่คราวนี้ขอเป็นรถกอล์ฟแล้วกัน 555
หลังจากกลับมาที่พัก เราก็เดินเล่นรอบๆ ซึ่งเป็น
เส้นทางสำหรับวิ่งออกกำลังกาย
นอกจากนั้นยังมีสนามน่าจะใช้เล่นวอลเล่ย์บอล จากนั้นก็แอบแวะไปดู Fitness และ Kid
club ซึ่งอยู่ที่เดียวกัน จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด
อุปกรณ์ออกกำลังกายมีเยอะพอสมควร ส่วนห้อง Kid Club เด็กต้องชอบแน่ๆ
มีทั้งเครื่องเล่นเกม คอมพิวเตอร์
และของเล่นอีกเพียบ
ถึงเวลากินแล้ว อาหารเช้า เป็นแบบบุฟเฟ่ มีของกินให้เลือกเยอะมากแล้วแต่ชอบเลย
ห้องอาหารจะเปิด 06:30-10:30น ห้องอาหารตกแต่งออกแนวModern มีพนักงานคอยอำนวยความสะดวกอยู่ตลอด
สิ่งที่ทำให้ผมชอบที่นี่มีหลักๆอยู่3อย่าง คือ
1. บริการ ซึ่งดีมากๆสมกับเป็นโรงแรม5ดาวจริงๆ
2. การตกแต่งสถานที่ ตกแต่งสวย ไม่เยอะจนเกินไป และที่สำคัญรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในการตกแต่งทำได้ดีมาก
3. สระว่ายน้ำ
ซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่เลยก็ว่าได้
สระว่ายน้ำที่นี่
ผมบอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในสระว่ายน้ำที่ผมชอบมากๆ
สระว่ายน้ำออกแบบเป็นทางลาดลงไปเลียนแบบชายหาด
ซึ่งบอกได้เลยว่าทำออกมาให้บรรยากาศริมทะเลมากๆ สระว่ายน้ำมีความลึก อยู่ที่ 1.2 เมตร
และมีสระเด็กแยกอยู่ต่างหากข้างๆกัน
ด้านข้างมีตียง และ ที่นั่งหลากหลายแบบให้เลือก ตามชอบกันเลย
และที่จะขาดไม่ได้ มี
มินิบาร์อยู่ริมสระว่ายให้เราเลือกหาเครื่องดื่มได้ตามชอบใจแต่ที่โดนใจที่สุดคือ
Promotion 1แถม1 ระหว่าง 16:00-18:00น อันนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดด้วยประการทั้งปวง
ด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีเป็นร้าน wine ไว้ให้เลือกซื้อและนั่งชิวกันได้เลย
ข้างๆกันมีนวดสปาให้หายเมื่อยกันอีกด้วย
ตกค่ำก็ตั้งใจว่าจะนั่งชิวๆจิบแอลกอฮอล์ริมระเบียง เดี๋ยวจะไม่คุ้มค่าห้อง
แต่พอได้ออไปนั่งสักพักก็รู้ว่าสิ่งที่เราคิดว่าแย่มันก็มีสิ่งดีๆซ่อนอยู่คือ
การที่ผมได้ห้องฝั่งติดถนน สิ่งแรกที่คิดคือคงมีแต่เสียงรถวิ่งทั้งคืน แต่ผิดคาดครับ
ถนนเงียบมาก นานๆจะมีรถวิ่งมา แต่ที่เจ๋งคือ มีเสียงเพลงลอยมา มองข้ามถนนไปก็เห็น
ร้านชื่อ Time Machine เป็นร้านอาหารกึ่งผับ มีดนตรีสดเล่นซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องผมพอดี
เข้าทางผมเลย นั่งจิบเบียร์ อยู่ระเบียงห้องชั้น7 มองออกไปไกลๆเป็นภูเขา
มีดนตรีสดให้ฟังอีกต่างหาก ชิวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
สักเที่ยงคืนเริ่มรู้สึกว่ามึนๆเลยขอตัวไปนอนก่อนแล้วกันเนื่องจากตอนเช้าเรามีภารกิจกินแต่เช้า
เช้าแล้ววววว!!!!!! ขณะนี้ 06:00 น ออกจากพี่พักไปตลาดหัวหิน เป้าหมายหลักของผมคือ ปาท่องโก๋ ครับ
เป็นร้านที่มาทุกครั้งต้องกิน ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงหัวหิน ร้านนี้จะอยู่ตรงข้ามกับร้าน ” กาแฟเจ๊กเปี๊ยะ “
ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับวัดหัวหิน ที่จอดรถหายากนิดนึง แนะนำให้จอดที่ในวัดเลยครับ ค่าจอด20บาท ไม่เสี่ยงกับการโดนใบสั่งของคุณตำรวจด้วย
ไหนๆก็มาถึง “ร้านกาแฟเจ๊กเปี๊ยะ”แล้ว ก็แวะเลยแล้วกัน
เรื่องกินเราไม่มียอมอยู่แล้ว คนเยอะมากครับ ต้องยืนรอโต๊ะสักพักใหญ่ๆ พอ
ได้แล้วก็สั่งสิครับ จะรออะไร
อันดับแรกไม่สั่งไม่ได้เลย กาแฟดำ ไข่ลวกครับ แก้ง่วง
ตามมาด้วย ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ บะหมี่ต้มยำทะเล ข้าวหมูกรอบ
แต่ไม่มีรูปหรอกนะครับ ต้องรีบกิน เพราะมีคนที่มาทีหลังจะคอยมายืนกดดันเราตลอดเวลา
ปิดท้ายด้วยชาเย็นอีกหนึ่งแก้ว อิ่มมากๆๆ แนะนำนิดนึงให้ซื้อปาท่องโก๋มาก่อนแล้วมานั่งกินกับกาแฟดำ ไข่ลวก ขอบอกว่าฟินมากๆ
แล้วก็แวะนั่นแวะนี่ไปเรื่อย กว่าจะกลับมาถึงห้องก็ใกล้เวลาต้อง Check - Out แล้ว
เก็บของเตรียมตัวกลับ ทั้งๆที่จริงๆแล้วยังอยากอยู่ต่ออีกสักคืน ( เพ้อเจ้อไปเรื่อย ) แล้วก็โทรไปแจ้ง Check
- Out ซึ่ง Service ที่นี่ดีตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆครับ
โทรไปแป๊ปเดียวก็มีคนขึ้นมาช่วยขนกระเป๋าลงไปไห้เรียบร้อยเลยครับ
แถมช่วยขนขึ้นรถอีกต่างหาก
ขากลับก็ไม่มีไรมากกกก แค่แวะซื้อขนมหม้อแกงกลับไปกิน
แถมยังได้ข้าวแช่ติดไม้ติดมือกลับมากินต่อที่บ้านอีกด้วย
ทริปนี้เป็นการมาหัวหินอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่มากี่ครั้งก็ยังรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง
เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ น่าเที่ยว ของกินเยอะ ที่พักทริปนี้เรียกว่าถูกใจเลย ห้องสะอาด ตกแต่งสวย อาหารอร่อย Serviceดี สระว่ายน้ำถูกใจมากกก ถึงจะไม่ติดทะเลก็ตาม ( แอบเสียดายนิดๆ) เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาพักผ่อน ครั้งนี้อาจจะไม่ค่อยได้ไปไหนเดี๋ยวไม่คุ้มค่าที่พัก อิอิ แต่ก็สนุกในแบบของมัน
การท่องเที่ยวเราไม่จำเป็นต้องไปที่ที่คนไปกันเยอะๆ ที่ที่คนฮิตๆกัน
แค่เราไปในที่ที่เราชอบก็มีความสุขแล้ว
“ ความสุขไม่ได้อยู่ที่ปลายทางที่เราไป แต่มันอยู่ระหว่างทางที่เราไปและคนที่ร่วมทางไปต่างหาก
“